
จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตกที่มีภูมิประเทศหลากหลาย เป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลองและสายหมอกแห่งขุนเขาตะนาวศรี มีความเป็นมาอันยาวนานและประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ ราชบุรีในปัจจุบันจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่หลากหลาย ที่ผสมผสานและอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและลงตัว
ราชบุรีมีสถานที่และกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุ งานหัตถกรรมต่างๆ เช่น เครื่องปั้น เครื่องหล่อ เครื่องทอถัก เครื่องจักสาน และยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่งของภูมิภาค
จังหวัดราชบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 5,196.462 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,247,789 ไร่ จัดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 43 ของประเทศไทย มีแม่น้ำแม่กลองเป็นแม่น้ำสายหลัก ไหลผ่านเขตจังหวัดเป็นระยะทางประมาณ 67 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศแบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ คือ พื้นที่ภูเขาสูง บริเวณชายแดนด้านตะวันตกติดกับสหภาพพม่า และด้านใต้ติดกับจังหวัดเพชรบุรี พื้นที่ราบสูงและที่เนินลอนลาด บริเวณถัดจากแนวเทือกเขามาทางด้านตะวันออก จนถึงตอนกลางของจังหวัด มีแม่น้ำภาชีและลำห้วยสาขาเป็นสายน้ำหลัก ที่ราบลุ่มสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง และด้านตะวันออกของจังหวัด และที่ราบลุ่มต่ำ บริเวณตอนปลายของแม่น้ำแม่กลองที่เชื่อมต่อกับจังหวัดสมุทรสงคราม อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเพียง 1-2 เมตร
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบทำให้สันนิษฐานได้ว่า บริเวณจังหวัดราชบุรีในปัจจุบันเคยมีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่มาตั้งแต่สมัยยุคหินกลาง คือเมื่อประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของเมืองโบราณสมัยทวารวดี ที่ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเมืองในพุทธศตวรรษที่ 12–13 และบริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลองปรากฏหลักฐานการตั้งเมืองขึ้นจากชุมชนท่าเรือสินค้าจากต่างประเทศอีกแห่งหนึ่ง ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 15–17 โดยมีพระปรางค์วัดมหาธาตุวรวิหารเป็นประธานอยู่กลางเมือง
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงยกกองทัพมารับศึกพม่าในเขตจังหวัดราชบุรีหลายครั้ง ครั้งสำคัญที่สุดคือสงครามเก้าทัพ ต่อมาปี พ.ศ. 2360 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดให้สร้างกำแพงเมืองใหม่และย้ายศูนย์บัญชาการเมืองไปที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองเพื่อรับศึกพม่า (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกรมการทหารช่าง) ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2437 ได้ทรงเปลี่ยนการปกครองส่วนภูมิภาค และรวมเมืองราชบุรีเข้ากับหัวเมืองต่างๆ ใกล้เคียง คือ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ปราณบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวม 6 เมือง ตั้งขึ้นเป็น “มณฑลราชบุรี” ตั้งศาลาว่าการมณฑลขึ้น ณ เมืองราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง (ปัจจุบันคืออาคารพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ราชบุรี) ต่อมาใน พ.ศ. 2440 ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรีจากฝั่งซ้ายกลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชบุรี กระทั่งถึง พ.ศ. 2476 มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลทั้งหมด มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิก และคงฐานะเป็นจังหวัดราชบุรีมาจนถึงปัจจุบัน
จังหวัดราชบุรีแบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ คือ อำเภอเมืองราชบุรี อำเภอจอมบึง อำเภอสวนผึ้ง อำเภอดำเนินสะดวก อำเภอบ้านโป่ง อำเภอบางแพ อำเภอโพธาราม อำเภอปากท่อ อำเภอวัดเพลง และอำเภอบ้านคา
ทิปส์ท่องเที่ยว
- เที่ยวสวนผึ้ง ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย เพราะตอนกลางคืนอากาศเย็นจัดเหมือนแถบภูเขาสูงทางภาคเหนือ และอุณหภูมิช่วงกลางวันกับกลางคืนอาจแตกต่างกันมาก ควรเตรียมยาแก้ไข้เผื่อไปด้วย
- ถ้าเดินทางไปในพื้นที่ที่มีป่าเขาหลายๆ วัน เช่น อำเภอสวนผึ้ง ควรเตรียมยากันยุงหรือยาป้องกันไข้มาลาเรียไปด้วย หากขับรถไปเอง ควรศึกษาแผนที่หรือสอบถามเส้นทางจากที่พักหรือสถานที่ที่จะไปให้พร้อมก่อนออกเดินทาง เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ค่อนข้างไกลกัน และสามารถไปได้หลายเส้นทาง
- บริเวณเขางูและถ้ำนายพลมีลิงอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ควรเดินถือของกิน กล้อง กระเป๋าสะพาย หรือโทรศัพท์มือถือแบบไม่ระมัดระวัง เพราะลิงอาจฉกฉวยของไปจากมือได้
- ล่องเรือเที่ยวชมคลองต่างๆ ควรนำร่มและหมวกไปด้วย โดยเฉพาะในหน้าร้อน เพราะแดดค่อนข้างแรง
- เที่ยวตลาดน้ำแห่งต่างๆ ควรตรวจสอบเรื่องเวลาก่อนออกเดินทาง เพราะตลาดน้ำบางแห่งมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หรือเฉพาะช่วงเวลาเช้าเท่านั้น ในขณะที่บางแห่งมีทุกวันตั้งแต่เช้าจดเย็น
- ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวกมีผู้ไปเที่ยวชมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากเดินทางไปในวันหยุดสุดสัปดาห์ คนอาจเยอะมากและล่องเรือได้ไม่สะดวก ดังนั้น หากไม่ได้สนใจซื้อสินค้า แต่เพียงต้องการล่องเรือชมวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำกลองอย่างเดียว ควรไปเช่าเรือจากตลาดน้ำคลองลัดพลี หน้าวัดราษฎร์เจริญธรรม ซึ่งเป็นบริเวณของตลาดน้ำดั้งเดิมก่อนย้ายไปยังบริเวณคลองต้นเข็มในปัจจุบัน จะสะดวกกว่า เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อยกว่า
การเดินทาง
ราชบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดราชบุรีได้อย่างสะดวกหลายวิธี ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ
การเดินทางไป ราชบุรี

จังหวัดราชบุรีมีทางรถไฟตัดผ่านที่อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอเมืองราชบุรี และอำเภอปากท่อ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีรถไฟธนบุรี ไปยังจังหวัดราชบุรีทุกวัน ทั้งรถธรรมดา รถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ จากสถานีรถไฟกรุงเทพถึงอำเภอเมืองราชบุรีใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางและราคาตั๋วโดยสารของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ www.railway.co.th และจองตั๋วรถไฟก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2220-4444 ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านบางแค อ้อมน้อย อ้อมใหญ่ นครชัยศรี นครปฐม จนถึงราชบุรี หรือทางหลวงหมายเลข 338 จากกรุงเทพฯ ผ่านพุทธมณฑล ไปพบกับถนนเพชรเกษม บริเวณอำเภอนครชัยศรี ก่อนถึงตัวเมืองนครปฐมประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นใช้ถนนเพชรเกษมต่อไปยังตัวเมืองราชบุรี

มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ราชบุรี และสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี (ผ่านอำเภอบ้านโป่ง) ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
การเดินทางภายใน ราชบุรี
ในตัวจังหวัดราชบุรีมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม
รถสองแถว มีวิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมารถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
รถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง และหน้าสถานีรถไฟ ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย
ระยะทางจากอำเภอเมืองราชบุรีไปยังอำเภอต่างๆ คือ
- อำเภอวัดเพลง 15 กิโลเมตร
- อำเภอบางแพ 22 กิโลเมตร
- อำเภอปากท่อ 22 กิโลเมตร
- อำเภอโพธาราม 26 กิโลเมตร
- อำเภอจอมบึง 30 กิโลเมตร
- อำเภอบ้านโป่ง 42 กิโลเมตร
- อำเภอดำเนินสะดวก 50 กิโลเมตร
- อำเภอบ้านคา 57 กิโลเมตร
- อำเภอสวนผึ้ง 60 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว
จังหวัดราชบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เมืองโบราณบ้านคูบัว ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ถ้ำฤาษีเขางู พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน โรงเรียนควาย อุทยานธรรมชาติวิทยา ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยว แนะนำใน ราชบุรี

ผู้สนใจสามารถชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับราชบุรีในด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ในการจับสัตว์น้ำ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี เช่น ลาวโซ่ง กะเหรี่ยงและไท-ยวน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัด โบราณวัตถุที่โดดเด่นนอกจากพระแสงดาบราชศัสตราประจำมณฑลราชบุรีแล้ว ยังมี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี ศิลปะขอมแบบบายน เป็น 1 ใน 5 องค์ที่ขุดพบในประเทศไทยซึ่งมีสภาพสมบูรณ์งดงามที่สุด
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่เต็มไปด้วยเรือพายลำย่อม บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เริ่มค้าขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 12.00 น. ส่วนตลาดน้ำวัดปราสาทสิทธิ์ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตเดิมๆ อยู่มากจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และจะวายตั้งแต่ก่อน 08.00 น.

ผู้สนใจสามารถชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับราชบุรีในด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ในการจับสัตว์น้ำ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี เช่น ลาวโซ่ง กะเหรี่ยงและไท-ยวน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัด โบราณวัตถุที่โดดเด่นนอกจากพระแสงดาบราชศัสตราประจำมณฑลราชบุรีแล้ว ยังมี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี ศิลปะขอมแบบบายน เป็น 1 ใน 5 องค์ที่ขุดพบในประเทศไทยซึ่งมีสภาพสมบูรณ์งดงามที่สุด

จากหน้าสถานีตำรวจสวนผึ้งแยกซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาข้ามสะพานไปก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ ลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ รวบรวมวัตถุโบราณ ในอดีต รถม้า รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยชนิดต่างๆ

ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 6 บ้านท่าเคย ตำบลท่าเคย อยู่ในพื้นที่ของชาวบ้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ในเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้เกิดลักษณะโตรกผาคล้ายกับแพะเมืองผีจังหวัดแพร่ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชมคันละ 30-50 บาท หากมาเป็นหมู่คณะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าชม

อยู่ในเขตตำบลธรรมเสน เส้นทางเดียวกับไปเขาช่องพราน ไปตามทางหลวงหมายเลข 3089 กิโลเมตรที่ 9-10 จาก มีทางแยกเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นภูเขาลูกเล็ก ๆ อันเป็นที่ตั้งของถ้ำสาริกาซึ่งมีความสวยงาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเมื่อคราวเสด็จประพาส และทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บริเวณปากถ้ำ

ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง ในเทือกเขาบิน มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความลึกจากปากถ้ำถึงบริเวณลึกสุดประมาณ 300 เมตร แบ่งออกเป็นคูหาตามลักษณะหินงอกหินย้อยวิจิตรตระการตา

ตั้งอยู่ที่ตำบลจอมบึง อยู่ห่างจากถ้ำเขาบินไป 11 กิโลเมตร ในบริเวณสวนรุกขชาติ ทางเข้าถ้ำจอมบึงอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก เดิมมีชื่อว่า “ถ้ำมุจลินทร์” เมื่อปี พ.ศ.2438 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ทรงพอพระทัยความงามของหินงอกหินย้อยโดยเฉพาะหินย้อยผาวิจิตร ที่เหมือนริ้วไหมอินทรธนูบนบ่าของจอมพล จึงทรงพระราชทานนามถ้ำใหม่ว่า “ถ้ำจอมพล” นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีงานฉลองเป็นประจำทุกปีในหน้าแล้ง

ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปีปริมาณน้ำจะมากในชั้นบน ๆ หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 ต่อมาเมื่อหมดสัมปทาน ทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่

เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ
กิจกรรมท่องเที่ยว
จังหวัดราชบุรีมีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม โดยกิจกรรมที่โดดเด่น คือ เที่ยวชมอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ตลาดน้ำ พิพิธภัณฑ์ เมืองโบราณ ไหว้พระ และล่องเรือเที่ยวชมวิถีชีวิตและธรรมชาติริมน้ำ
และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ขี่จักรยานท่องเที่ยว เที่ยวน้ำตก พายคายัค สำรวจถ้ำ ดูนก เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เที่ยวชมโรงเรียนควาย พักโฮมสเตย์ เรียนรู้การเกษตร และล่องแก่งแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นต้น
กิจกรรมและงานประเพณี
ราชบุรีเป็นจังหวัดที่ผู้คนในท้องถิ่นยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและประเพณีดั้งเดิมอันงดงามไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ตลอดทั้งปีจึงมีการจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลองและงานประเพณีที่สำคัญ เช่น งานเทศกาลสัปดาห์องุ่นหวานและของดีดำเนินสะดวก งานประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญ งานประเพณีกินข้าวห่อ หรืออั๊งหมี่ทอง งานประเพณีรำผีมอญ เป็นต้น
ช้อปปิ้ง
ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าของฝากประจำจังหวัดให้เลือกซื้อตามความชอบ ที่ไม่น่าพลาดคือสินค้าโอทอป ซึ่งมีทั้งงานศิลปหัตถกรรมประจำท้องถิ่นและผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาแปรรูปได้อย่างน่าสนใจ
ที่พัก
จังหวัดราชบุรีมีโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากในอำเภอเมืองฯ และอำเภอบ้านโป่ง ราคาห้องพักเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของห้องพักและที่ตั้ง
ในอำเภอสวนผึ้งมีรีสอร์ตสวยน่าพักจำนวนมาก ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท และมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพง
นอกจากนี้ราชบุรียังมีพื้นที่ของทั้งราชการและเอกชนหลายแห่ง ที่มีจุดกางเต็นท์และเต็นท์ให้เช่าในราคาย่อมเยา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่นิยมการพักผ่อนในบรรยากาศแบบแค้มปิ้งด้วย ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (แก่งส้มแมว) และรีสอร์ตหลายแห่งในอำเภอสวนผึ้ง